Samsung เคยใช้ “Plus” ใน Samsung Galaxy S Plus ที่เปิดตัวและเปิดจำหน่ายเมื่อปี 2011 โดย Galaxy S Plus เป็นรุ่นที่อัปเกรดคุณสมบัติมาจาก Samsung Galaxy S ที่เปิดตัวเมื่อปี 2010
การสัมภาษณ์งานกับบริษัทใหญ่ๆ มักเจอคนสัมภาษณ์งานที่ค่อนข้างกดดัน และหนึ่งในนั้นคือ Tim Cook CEO ของ Apple โดย Kim Scott เผยประสบการณ์สัมภาษณ์งานที่ Apple ว่า Tim Cook ใช้ความเงียบเป็นอาวุธในการสัมภาษณ์งาน
Kim Scott (อดีตผู้บริหาร Google) ได้ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider ในการเปิดตัวหนังสือชื่อ Radical Candor: Be a Kick-Ass Boss Without Losing Your Humanity เกี่ยวกับประสบการณ์สัมภาษณ์งานกับ Tim Cook
Tim Cook เป็นผู้ฟังที่เงียบมาก
เธอเผยว่า “Tim Cook เป็นผู้ฟังที่เงียบมาก” ซึ่งก่อนหน้านี้มีหลายคนเตือนเธอว่า ระวังให้ดี Tim Cook เป็นคนที่เงียบมาก อย่าไขว้เขว เริ่มต้น Tim Cook ยิงประเด็นคำถาม Kim Scott ว่า “ความผิดพลาดร้ายแรงที่สุดที่เธอทำต่อ Google คืออะไร?”
Kim Scott เผยว่า ด้วยความที่ไม่ได้สนใจอะไรมาก เธอก็ได้เล่าถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นที่ Google ให้ Tim Cook ฟัง แต่น่าแปลกที่ Tim Cook ฟังอย่างเงียบๆ ไม่พูดอะไรเลย
หลังจากนั้น Kim Scott ก็เล่าเรื่องต่อไป แต่ลดการพูดสิ่งที่ทำให้ตัวเองดูไม่ดีลงเล็กน้อย เพราะเธอหวังว่าอยากให้การสัมภาษณ์ออกมาดี แต่ Tim Cook ก็ยังเงียบอยู่ เธอคิดในใจว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ
แต่จู่ๆ อาคารที่เธอนั่งสัมภาษณ์อยู่เกิดสั่นไหวคาดว่ามาจากแผ่นดินไหว ในห้องเริ่มสั่นและเหวี่ยงไปมา เธอจึงใช้โอกาสนี้ลดความตึงเครียดในการสัมภาษณ์ลงโดยถาม Tim Cook ว่า “Tim ตึกนี้มีการออกแบบอย่างไร” และ Tim Cook และวิศวกรที่อยู่ในห้องสัมภาษณ์ก็ได้อธิบายเกี่ยวกับหลักการทางด้านวิศวกรรมให้เธอฟัง
โดย Kim Scott เผยว่า ขอบคุณแผ่นดินไหวครั้งนั้น ที่ช่วยลดบรรยากาศในห้องนั้นลง และ Tim Cook เป็นคนที่สัมภาษณ์งานด้วยความเงียบมากๆ
นี่ไม่ใช่แนวคิดแรก แต่เป็นการสานต่อทั้งความฝันของ Microsoft และ Google ซึ่งก็คือการเอาอุปกรณ์พกพามาวางบน Dock เพื่อใช้งานแทน PC โดยส่วนตัวคิดว่า Android เป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ได้ แต่เป็น Tablet ที่แย่มาก ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงการเป็น Desktop
Apple ตอนนี้มี Siri ดังนั้น Samsung จึงขอสู้ด้วย Bixby ปัญญาประดิษฐ์สุดล้ำกับ 3 คุณสมบัติหลักที่ทำได้เหนือยิ่งกว่า Siri เสียอีก! (ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับความฉลาดของ AI และข้อมูลสารสนเทศ)
ความคืบหน้าก่อสร้าง Apple Park ต้นเดือนเมษายน 2560
แม้ว่าทาง Apple แจ้งว่าเมษายน 2560 นี้จะเริ่มให้พนักงานขนย้ายข้าวของเข้าสำนักงานแห่งใหม่นี้ได้แต่ดูจากความคืบหน้าในคลิปนี้แล้ว ก็คงต้องลุ้นไปด้วยกันว่าจะทันไหม ไปชมอัปเดตล่าสุดกันครับ
ข้อมูลเกี่ยวกับ Apple Park
เห็นหน้าตาแบบนี้หลายคนคิดว่าเป็นยานอวกาศเตรียมบินออกนอกโลก! เอ้ยไม่ใช่ นี่มันสำนักงานแห่งใหม่ของ Apple เค้า ซึ่ง “Steve Jobs มีความต้องการให้ Apple Park เป็นเหมือนสิ่งที่ระลึกช่วงชีวิตของเขาให้อยู่กับพวกเราไปนานๆ สถานที่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทีมงานของ Apple ได้เกิดแนวคิดหรือไอเดียใหม่ๆ ทามกลางสภาพแวดล้อมของ Apple Park แห่งนี้”
ล่าสด Apple ได้ รายงานความก้าวหน้าความรับผิดชอบของซัพพลายเออร์ประจำปี 2017 มีอะไรน่าสนใจบ้างไปชมสรุปข้อมูลกันเลย
แน่นอนว่า Apple บริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องให้ความสำคัญกับผู้เกี่ยวข้องด้านธุรกิจทุกด้านและหนึ่งในนั้นคือ ซัพพลายเออร์ หรือ ผู้ผลิต ที่ Apple ประกาศเสมอว่าให้ความสำคัญและมีการตรวจสอบมาตรฐานเสมอ
Apple ได้อันดับ 1 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันจาก Corporate Information Transparency Index (CITI)
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลสรุปขั้นต้นเกี่ยวกับความรับผิดชอบของซัพพลายเออร์ ซึ่งสื่อให้เราเห็นว่าทาง Apple เองใส่ใจกับซัพพลายเออร์หรือผู้ผลิตมากพอสมควร โดยเป็นการเน้นมาตรฐานในการปฏิบัติงานและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก
ขั้นที่ 3 ทาง Apple จะส่งอีเมลพร้อมรหัส 6 ตัวเพื่อยืนยันตัวตอน ให้นำตัวเลขเหล่านั้นมากรอกให้เรียบร้อยแล้วกด Verify
เพียงเท่านี้การสมัคร Apple ID ก็เสร็จแล้วเรียบแล้วกว่า 80%
ขั้นที่ 4 เปิด App Store ที่ iPhone, iPad จากนั้นล็อกอินด้วย Apple ID ที่เพิ่งสมัครในด้านบนแล้วระบบจะให้ยืนยันอีกรอบโดยการกรอกข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยได้แก่
คำนำหน้าชื่อ (ต้องเลือก) เช่น นาย นาง นางสาว, Mr. Mrs. Miss
เมื่อกรอกครบแล้วก็พร้อมสำหรับการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างๆ จาก App Store ได้แล้ว ทั้งนี้สามารถนำ Apple ID ไปล็อกอินเข้าใช้งาน iCloud (ไปที่ Settings> iCloud) เพื่อจะได้ใช้ฟีเจอร์อย่างการสำรองรายชื่อ, สำรองโน็ต, ค้นหา iPhone ของฉันและรับเนื้อที่เก็บไฟล์ฟรี 5GB (ถ้าไม่ล็อกอินเข้า iCloud บน iPhone, iPad จะได้เนื้อที่ iCloud เพียง 1 GB)
เกร็ดความรู้
Apple ID สามารถใช้กับ App Store, iTunes Store, Mac App Store และใช้บริการอื่นๆ กับทาง Apple ได้หมด นั่นคือ ID เดียวสามารถทำได้ทุกอย่างนั่นเอง
วิธีการนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสมัคร Apple ID โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้ง iTunes ลงคอมพิวเตอร์ให้เสียเวลาและเหมาะสำหรับการช่วยสมัคร Apple ID ให้คนอื่นโดยไม่ต้องล็อกเอ้า Apple ID บน iTunes ของเรานั่นเอง
“พวกเราตั้งใจพัฒนาแอปฯนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีศึกษาเกี่ยวกับประสาทวิทยาศาสตร์ (neuroscience)ซึ่งจะช่วยประเมินสภาวะจิตใจที่เป็นตัวบ่งบอกภาวะการเป็นโรคซึมเศร้าได้แบบ real time และแพทย์เจ้าของไข้ยังสามารถนำข้อมูลที่ได้ มาประกอบการตัดสินใจและประเมินผลการรักษาโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย”