ถ้าหากบางครั้ง iPhone, iPad ของคุณอยู่ดีๆ ก็เข้าRecovery Mode เองแล้วหละก็ ขั้นตอนเหล่าๆ นี้จะช่วยแก้ปัญหาเพื่อให้เครื่องกลับมาทำงานได้อย่างปกติ
วิธีแก้ปัญหา iPhone, iPad ติด Recovery Mode
จะมีอยู่หลายวิธีค่อยๆ ลองกันไปตามลำดับนะครับจากง่ายไปหายาก
1. ทำ Hard Reset (ข้อมูลไม่หาย)
กดปุ่ม home+power พร้อมกันค้างเอาไว้จนกว่าเครื่องจะดับลง หลังดับลงก็ยังคงกดค้างไว้เช่นเดิมจนกว่าจะเห็น Apple logo ขึ้นมาจึงปล่อยทั้งปุ่มทั้งสอง
ถ้าไม่ติดขัดอะไรมากวิธีนี้ก็จะช่วยให้เครื่องออกมาโหมดปกติได้
2. ใช้เครื่องมือ Tinyumbrella (ข้อมูลไม่หาย)
ดาวน์โหลดได้ที่ http://blog.firmwareumbrella.com/ ได้ทั้ง windows, mac จากนั้นเปิดโปรแกรมมา, เชื่อมต่อสาย USB พร้อมอุปกรณ์ให้เรียบร้อย กดที่ปุ่ม Exit Recovery ที่มุมบนขวาได้เลย เครื่องจะกลับสู่โหมดปกติ
3. Restore ด้วย iTunes (ข้อมูลหาย)
iTunes จะมองเห็นอุปกรณ์แล้วแจ้งว่าตอนนี้กำลังอยู่ใน Recovery mode จากนั้นสามารถกดที่ปุ่ม Restore iPhone แล้วรอจนกว่าขั้นตอนจะเสร็จสิ้น ทั้งนี้จะนานไม่นานขึ้นอยู่กับอินเทอร์เน็ตว่าเร็วไหม เพราะมันต้องดาวน์โหลด iOS ล่าสุดของแม่ข่ายของ Apple เพื่อที่จะนำมา Restore, แต่ถ้าหากว่า iOS ล่าสุดเคยโหลดมาแล้วก็จะเข้าขั้นตอนการ Restore เลย ต้องรอนานหน่อยนะ
4. DFU Mode แล้ว Restore (ข้อมูลหาย)
DFU ย่อมาจาก Device Firmware Upgrade ซึ่งจะใช้สำหรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์ของตัวเครื่อง ส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้งานขึ้นสูงเท่านั้นจะใช้กันเพราะการเข้า DFU Mode นั้นค่อนข้างยากนิดนึง ดูวิธีการเข้า DFU Mode ที่นี่
หลังจากเข้า DFU Mode ได้แล้ว(ข้อสังเกตคือหน้าจออุปกรณ์จะมืดแต่ที่ iTunes จะเห็นอุปกรณ์) ก็สั่ง Restore iPhone เช่นเดิมกับข้อที่ 3 ได้เลย
ทั้งหมดถือว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหา iPhone, iPad ติด Recovery mode นะครับลองเอาไปใช้งานดู
ส่วนจะมีอีกกรณีเหมือนกันที่ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ เช่น อุปกรณ์ในเครื่อง iPhone, iPad เสียภายใน อาการที่อาจจะเจอคือ
- ทำขั้นที่ 1-4 แล้วยังแก้ไม่ได้ กลับมาติดที่ Recovery mode เช่นเดิม
- Restore ผ่านแล้วใช้งานได้ปกติ แต่ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เข้า Recovery mode ใหม่แล้วค้างอยู่อย่างนั้น
- Restore ไม่ผ่านที่ iTunes แล้วขึ้น Error ต่างๆ ซึ่งบางครั้งอาจจะเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ภายใน
โดยส่วนที่จะเจอปัญหาที่กล่าวมาข้างบนมันจะเสียที่อุปกรณ์บางคนเปลี่ยนแบตเตอรีแล้วหาย, บางคนทำการ restore ที่คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นแล้วหาย(กรณีที่คอมฯ แรกอาจจะติดไวรัสหรืออินเทอร์เน็คมีปัญหา) หรือหนักสุดก็อาจจะต้องเปลี่ยน logicboard กันเลยทีเดียว ทั้งนี้ก็ต่างกรรมต่างวาระนะครับ
หวังว่าจะช่วยเหลือผู้ที่เจอปัญหานี้ได้